2018 Week46 : วศิน มหาพล

2018week46
12 พฤศจิกายน 2018 10 view(s)
2018 Week46 : วศิน มหาพล

ABOUT HIM

คุณวศิน มหาพล (หิน) :  สำหรับใครที่ติดตาม Theroommaker เพจแต่งบ้านที่มักจะมาพร้อมคลิปสนุกๆ และไอเดียเด็ดๆ เกี่ยวกับการตกแต่งและการรีโนเวทบ้าน น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับอินทีเรียร์หนุ่มมาดกวนท่านนี้เป็นอย่างดี...นอกจากจะเป็นเจ้าของเพจแล้ว คุณหินยังเป็นผู้บริหารบริษัท DEC MEDIA ซึ่งเป็นผู้ผลิต รายการ Showroom และให้บริการเกี่ยวกับ Rendering ภาพ 3D ให้กับผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ แบรนด์ชั้นนำต่างๆ ในเมืองไทย และยังเป็นผู้ลงทุนด้านอสังหาฯ (โดยการรีโนเวทและขายบ้าน) ภายใต้ชื่อบริษัท HQ MAKER อีกด้วย 

เรื่องงานตกแต่งผมทำเป็นงานอดิเรกครับ โดยส่วนใหญ่เน้นเป็นงานรีโนเวท ซึ่งจริงๆ แล้วมันเริ่มต้นมาจากเรื่องการลงทุนด้านอสังหาฯ แล้วค่อยเอาวิชาความรู้เรื่องการออกแบบเข้าไปใส่ คือพอเราไปซื้อบ้านเก่ามาก็ต้องมีการปรับปรุงเพื่อขายต่อ ทีนี้มันก็จะมีเรื่องของการรีโนเวทเข้ามาเกี่ยวข้อง และระหว่างที่เราไปตรวจไซต์งาน เราจะรู้สึกว่ามันสนุก เพราะจะมีการหยอกล้อเล่นมุขกันเฮฮากับทีมช่าง แล้วมันก็เลยเถิดไปจะถึงการทำเพจ Theroommaker ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับงานออกแบบตกแต่งที่พยายามจะเน้นให้คนดูทำได้ทำได้ด้วยตัวเองครับ

ผมชอบทำงานรีโนเวทนะ ผมว่ามันสนุกดีครับ เสน่ห์ของงานรีโนเวท คือ เวลาที่ได้เห็น Before & After มันจะเป็นภาพที่ทำให้คนรู้สึกว่า มันไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ!!มันเหมือนคนไปทำหน้ามาอ่ะ คือต้องทำให้คนรู้สึกว่าจำภาพเก่าไม่ได้ มันให้ความรู้สึกว่ามันเจ๋งดี จริงๆ ผมว่า ความสนุกของมันคือโจทย์ที่ต้องแก้ พอเราทำไปสักพักเราจะรู้ว่างานรีโนเวทมันเขียนแบบออกมาเลยไม่ได้ เราต้องทุบมันก่อน เพื่อให้รู้ว่าเราเจออะไรข้างใน เรากำหนดเป็นฟังก์ชั่นไว้ก่อนได้  แต่พอทุบมันเสร็จปุ๊บ! เราจะเห็นว่า มันทำอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วค่อยทำแบบลงรายละเอียดอีกทีครับ

ทุกครั้งที่รีโนเวท ผมให้ความสำคัญกับ Space ครับ หมายถึง ผมต้องการทำให้ลืม Space เดิม เพราะถ้าเราไปรีโนเวท แล้วฟังก์ชั่นทุกอย่างมันเหมือนเดิม ผมรู้สึกว่ามันไม่สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ ดังนั้นถ้าทำแล้ว มันต้องรู้สึกว่า Feeling ของบ้านมันเปลี่ยนไป ต้องสร้าง Space ที่มันทำให้รู้สึกน่าสนุก ตื่นเต้นตลอด ทำให้รู้สึกว่าอยากจะอยู่จัง  ตัวอย่างเช่น  “ผนังบ้าน” ที่ปกติจะก่อด้วยอิฐแดงหรืออิฐมวลเบา แต่ผมอยากลองเอาพื้นสำเร็จมาทำผนัง ก็ทำเสาเอ็นล็อคสองข้างแล้วเอาพื้นสำเร็จเสียบลงไป  คือเราอยากได้ความรู้สึกของปูนที่ดิบจริงๆ  มันก็เป็นความสนุกที่ได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆ...แต่ช่างก็ด่าเพราะมันทำยากมากครับ (หัวเราะ) คืองานผม มันไม่ได้เป็นงานอินทีเรียร์จ๋า แต่จะเป็นเรื่อง Space มากกว่า คือ ผมรู้สึกว่า  Space เป็นตัวเปลี่ยนความรู้สึก  ซึ่งงานตกแต่งประดับประดามันสร้างให้เรารู้สึกได้ไม่เยอะเท่า Space  เพราะฉะนั้นเวลาเราเข้าไปรีโนเวท งานที่ผมอยากจะทำ คือ งานทุบ งานเจาะ อย่างโถงบ้านก็อยากจะเจาะเพื่อที่จะสร้างให้ความรู้สึกของบ้านมันต่างออกไป...คือถ้าเจาะได้เป็นเจาะครับ (หัวเราะ)  

การรีโนเวทอาจไม่มีแนวทางอะไรที่ชัดเจน เพราะกายภาพของบ้านหลังต่างหากที่จะเป็นตัวกำหนดให้ว่า เราควรทำอะไรยังไง แต่เราจะพยายามให้กายภาพนั้นมันมี Gimmick อะไรบางอย่างขึ้นมา เพื่อให้มันมีจุดเด่น มีความสนุก มีสีสันขึ้นมา ในกรอบที่มันวางเอาไว้ ซึ่งบ้านทุกหลังที่ผมรีโนเวทและออกแบบตกแต่ง ผมเน้นว่ามันควรจะต้องมี “แสงและพื้นที่สีเขียว” ครับ เพราะผมรู้สึกว่า “บ้านที่ไม่มีต้นไม้” มันจะเป็นบ้านที่แข็งเพราะมีแต่ก้อนปูน แต่รูปทรงของต้นไม้มันจะทำให้บ้านรู้สึกเป็นบ้านมากขึ้น  ผมเลยพยายามจะใส่ต้นไปลงไปในทุกบ้านที่ผมทำ แล้วพอเวลาแดดมา เงาของต้นไม้จะพาดลงไปในบ้าน มันจะทำให้บ้านรู้สึกร่มเย็นและน่าอยู่ครับ และอีกอย่างคือผมจะพยายามไม่ให้มีมุมอับเลย ตอนกลางวันถ้าไม่เปิดไฟ ทุกมุมต้องสว่างด้วยแสงธรรมชาติ สิ่งที่บ้านทุกหลังมีแต่คอนโดไม่มี คือ “ท้องฟ้า” ครับ เราสามารถเอาแสงตรงนั้น มาลงตรงไหนก็ได้ในบ้านเรา ผมว่าแสงธรรมชาติมันทำให้รู้สึกสะอาด และแสงก็ให้พลังงานกับมนุษย์อยู่แล้ว มันให้ความรู้สึกแข็งแรง สุขภาพดี ส่วนมุมอับ...มันเป็นบ่อเกิดของความชื้น อย่างห้องแต่งตัวผมก็พยายามเจาะช่องแสงนะ คือพยายามเจาะทุกอันให้มันมีแสงเข้ามา โดยทั่วไปเราอาจเคยชินกับห้องที่เป็นผนังทึบเนอะ แต่ผมจะแบบว่าเจาะได้เจาะอ่ะครับ คือผมว่าอะไรอับๆ มันต้องมีผีอ่ะ (หัวเราะ) หรืออย่างบ้านผมเอง ผมก็เจาะชั้นสองเพื่อให้มันเป็นโถงขึ้นมา พอเพดานมันสูงขึ้นก็ทำให้ส่วนนั่งเล่นมันอารมณ์เปลี่ยนไป จากห้องนอนก็มองลงมาเห็นข้างล่างได้ แล้วก็เรื่องของแสง คือ ผมชอบความรู้สึกเวลาแสงมันเข้า เพราะการเปิดช่องแสงก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ความรู้สึกของบ้านมันเปลี่ยน

เช่นพวกตึกแถวหรือทาวน์โฮม สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า Space มันเปลี่ยนก็คือแสงครับ แต่ตึกแถวบ้านเรามันถูกกำหนดไปด้วย ความเป็นซอง ทำให้แสงเข้าไม่ถึงข้างหลังเราก็ไปเจาะพื้นชั้นสอง  เพื่อให้แสงลงมาถึงโถงข้างล่างได้  พอเราเจาะช่องแสง  เรามองจะเห็นข้างบน  มันก็เหมือนกับว่าเรามีท้องฟ้าของเราเอง  พอแสงลงมาข้างล่างได้เราก็จะสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้  มันก็ให้ความรู้สึกที่ต่างไปจากบรรยากาศตึกแถวแบบเดิมๆ คือ มันเริ่มต้นจากการที่เราเห็นว่าอะไรที่มันมืดเราก็เจาะครับ

ปัญหาเดียวเลยที่มักเจอในงานรีโนเวท คือ เจอสิ่งที่ไม่คาดฝันครับ ซึ่งบอกไม่ได้เลยว่าคืออะไร พอทุบไปเรื่อยๆ แล้วจะเจอ แล้วก็ต้องคิดว่าเราจะแก้ยังไงได้บ้าง ก็ต้องเตรียมเงิน(จำนวนมาก)และเตรียมใจครับ แต่ถ้าเราทำดีๆ มันก็ถูกกว่าสร้างใหม่อยู่แล้วครับ

ถึงผมจะชอบทำ Space ให้มันรู้สึก Surprise แต่ผมก็ไม่ได้ไปตกแต่งหรือจัดอะไรกับมันมากนัก อย่างที่บ้านผม ภรรยาจะเป็นคนเอาพร็อพต่างๆ ไปจัดไปวาง ซึ่งบางทีมันก็อาจจะไม่ได้แมตช์แต่เราก็รู้สึกว่ามันก็คือชีวิตนะ...ที่มันก็ไม่จำเป็นจะต้องเป๊ะไปทุกอย่าง มันก็มีเรื่องราวดูสนุกดี...บ้านจะสวยก็ตรง “คนอยู่” ที่จะเข้าไปเติมเรื่องราวให้มันนะผมว่า

  • ปรับฟังก์ชั่นโรงแรมมาใช้ที่บ้าน ผมชอบออกแบบห้องน้ำให้อ่างล้างหน้าออกมาอยู่ข้างนอกครับ เพราะผมอยากให้ห้องน้ำสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน คือเป็นแบบฟั่งก์ชั่นโรงแรม  ซึ่งพอเอามาปรับใช้กับบ้านแล้วผมว่ามัน Work นะ บ้านผมเองก็ทำครับ 
 
  • เปลืองนิดแต่ชีวิตเปลี่ยน เวลาติดตั้งแอร์  ผมจะค่อนข้างใส่ใจกับงานระบบ เช่น การวางตำแหน่งคอยล์ร้อนของแอร์ คือจะให้มันไปเรียงรวมกันอยู่ที่ระเบียงทั้งหมดซึ่งมันก็จะเปลืองค่าท่อนิดนึง  แต่มันก็ทำให้เกิดความสวยงามและมีจุดเซอร์วิสที่เดียวจบ ซึ่งผมจะทำแบบนี้กับบ้านทุกหลัง  ใครที่มีบ้านอยู่แล้วจะเอาไปลองทำก็ได้ครับถ้าทนไหวกับค่าท่อ
 
  • เมื่อถึงปีใหม่ให้ลองทบทวนตัวเอง  สำหรับคนที่อยู่บ้าน  แต่ละปีเราควรมาทบทวนว่าพื้นที่ไหนเราใช้หรือพื้นที่ไหนไม่ได้ใช้ เช่น ตอนสร้างบ้านเสร็จเราอาจชอบตีกอล์ฟ เราอาจจะมีแผงเก็บอุปกรณ์ตีกอล์ฟ  พอผ่านไป 4 ปี อาจจะปวดหลัง เล่นไม่ได้  มันก็อาจจะกลายเป็นห้องอ่านหนังสือ คือ ผมว่าพฤติกรรมเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
 
  • ประโยชน์ใต้บันได เป็นอีกหนึ่งมุมที่ผมเคยใช้แล้วมัน Work ซึ่งมันจะเป็นจุดที่คนไม่ค่อยใช้นอกจากเก็บของ แต่ที่บ้านผมคือจะใช้ที่ตรงนี้เป็นที่รีดผ้า แล้วตรงขั้นบันไดเราก็ทำตะขอเกี่ยว พอแม่บ้านรีดผ้าเสร็จเขาก็แขวนทิ้งไว้ ผมกลับมาผมก็หิ้วขึ้นไปเก็บ ผมว่าแค่มุมเล็กๆ เราก็สามารถใช้ประโยชน์ได้และทำให้มันดูมีดีไซน์ได้ครับ

Favorite items

Favorite Corners in SB Design Square

มุมนี้ผมว่ามันมีการจัดองค์ประกอบของงานตกแต่งเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ดีครับ  คือของตกแต่งข้างหลังมันทำให้ความรู้สึกของเฟอร์นิเจอร์ชัดเจนขึ้น แล้วพวกหมอนกับโคมไฟ มันก็ดูดิบๆ และดูคันทรีนิดๆ

ชอบมุมนี้เพราะรู้สึกเหมือนฉากในหนังเรื่องนึงครับ บ้านมันดูมีคาแรคเตอร์ของความเป็นฝรั่งนิดๆ แบบบ้านเมืองหนาว แล้วชั้นวางของด้านหลังมันก็สามารถวางเรื่องราวที่ไปด้วยกันกับตัวโต๊ะได้ มันให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศแบบเขาใหญ่อะไรอย่างนี้  เป็นการประชุมที่ให้ความรู้สึกพักผ่อนดีครับ  

ต้องการความช่วยเหลือทักแชตเลย

Live Chat With SB Design Squarex