2018 Week 26 : ภควดี พะหุโล

2018week26
25 มิถุนายน 2018 5 view(s)
2018 Week 26 : ภควดี พะหุโล

ABOUT HIM

ติณณภัทร์ แก้วเมือง(โอม) : ด้านหนึ่งเขาคือ “สถาปนิก” หนุ่มผู้มากความสามารถ จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย 1 ใน 8 ของไอวีลีก ( Ivy League) หรือกลุ่มสถาบันการศึกษาเอกชนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงด้านคุณภาพทางการศึกษาที่ดีที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้านหนึ่งคือ “ที่ปรึกษา” ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ นับเป็นการผสานทักษะความชำนาญเฉพาะทางได้อย่างลงตัวและน่าสนใจ สัปดาห์นี้มาพูดคุยกับ Managing Director จากบริษัท BLUEDGE CONSULTANT

คอนเซ็ปต์ของบริษัทเราคือ Tailor-made Branding คือทำเรื่องการตลาดและการสื่อสารการตลาด ไปจนถึงเรื่องงานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าแบบ Customize เลยครับ และอีกอันที่ทำเป็นงานอดิเรก (แต่ก็มีเข้ามาให้ดูแลตลอดๆ) คือเรื่องของการเป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบตกแต่งภายใน “บ้านตัวอย่าง” ให้กับโครงการบ้านต่างๆ ซึ่งมันก็ต้องสอดคล้องไปกับเรื่องของ Branding ด้วย     

นอกจากงานสถาปัตย์แล้ว ผมยังรู้สึกชอบงานดีไซน์ในแง่มุมอื่นด้วย คือเรื่อง Marketing และ Branding ซึ่งจากที่เรามีความรู้ด้านดีไซน์ด้วย งานที่ปรึกษาของผมจึงมีทั้งสองส่วน ส่วนแรกคือการทำงานร่วมกับสถาปนิก เพื่อกำหนด Look & Feel และ Mood & Tone ของโครงการ  ส่วนที่สองจะเกี่ยวกับแบรนด์และการตลาด การที่เรารู้ทั้งสองส่วนและสามารถนำทักษะทั้งสองส่วนนี้มาใช้เพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ มันทำให้การทำงานสนุกและผมรู้สึกว่ามันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากครับ

เรื่องของการออกแบบประเภทที่อยู่อาศัยและการทำตลาดให้ขายได้เร็วปล่อยได้ไว ผมว่าเราต้องคิด 3 ส่วน  คือ 1.ดูคู่แข่งก่อน ว่าตอนนี้เป็นยังไง อยู่ Segment ไหน เขาชูจุดขายเรื่องสไตล์การตกแต่งยังไง สไตล์ไหน ราคาเท่าเราหรือเปล่า เพื่อนำข้อมูลมากำหนดโครงสร้างราคา 2.ดูเทรนด์ เราต้องดูว่าตอนนี้เทรนด์ไปถึงไหนแล้ว 3.ดูลูกค้า ว่าเขาเป็นใคร ชอบอะไร คนสมัยนี้ชอบสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น...3 แกนนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่คนทำธุรกิจและคนที่ทำดีไซน์ต้องรู้ แล้วคุณจะสามารถสร้างคอนเซ็ปต์โครงการออกมาได้ชัดเจนมากๆ

สำหรับงานออกแบบ สิ่งที่ผมเน้นคือเรื่องของความ Practical หรือการประยุกต์ใช้งานได้จริงๆ คือเรามักจะได้ยินคำว่า Form Follows Function กันตลอดเวลา ซึ่งคำว่าฟังก์ชั่นสำหรับสมัยนี้ มันหมายไม่ได้หมายถึงแค่ประโยชน์ใช้งาน แต่มันคืออะไรที่ต้องใช้สบาย  อยู่สบายเช่น โซฟาสวยแค่ไหน แต่นั่งไม่สบายก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นมันแปลว่า Form จะต้องสะท้อนถึง Function ที่แท้จริงที่มันต้อง Practical คือฟังก์ชั่นการใช้งานต้องได้ก่อน ส่วนรูปทรงหรือดีไซน์มันจะตามมาหรือไม่อันนี้แล้วแต่  

ในแง่ของการแต่งบ้าน อาจยังมีหลายคนที่คิดว่าต้องพึ่งสถาปนิกหรืออินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ตลอดเวลา แต่ผมว่าทุกวันนี้เรามี Social Media  มันมีแรงบันดาลใจอยู่ในนั้นมากมาย มีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มากมาย อยากให้คุณลองลุกขึ้นมาดู แล้วจะรู้ว่า จริงๆ แล้วคุณสามารถหาของดีไซน์สวยๆ ได้ในราคาไม่เท่าไหร่เอง ไม่ต้องพึ่งให้ดีไซน์เนอร์เลือกแทนเรา  เราเลือกเองได้ ในราคาที่เรามี ถ้าคุณไว้ใจใน Reference มันจะช่วยได้มาก ผมว่าคนที่อยากแต่งบ้านควรต้องหาแรงบันดาลใจด้วยตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่ไม่เชียร์อินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์นะครับ แต่ผมว่าถ้าคนที่จะแต่งบ้านมีความรู้ความเข้าใจตรงนี้ เราจะทำงานด้วยกันง่ายขึ้น หรือตัวลูกค้าเอง ถ้าจะเลือกใช้บริการสถาปนิกหรืออินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ไปแล้ว เวลาผ่านไปสักพัก ถ้าเกิดรู้สึกเบื่อหรืออยากเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งแต่มืออาชีพเสมอไปครับ

  • โซฟาผ้า หรือ โซฟาหนัง ? อันนี้แล้วแต่ฟังก์ชั่นที่คุณจะใช้งาน ถ้าหากเป็นห้องไว้รับแขก ก็ควรจะเป็นโซฟาหนังเพื่อให้มันดูเป็นทางการ แต่ถ้าเป็นห้องที่คุณเอาไว้นั่งๆ นอนๆ ดูทีวีเป็นประจำ ผมว่าน่าจะต้องเป็นผ้า เพราะ Texture มันสบาย พอเพิ่มพวกหมอนอิงลงไปก็ยิ่งทำให้ขลุกอยู่กับมันได้ทั้งวัน
 
  • บ้านจะไม่สวยสมบูรณ์ถ้าขาด Lighting ผมเป็นคนชอบเรื่อง Lighting มาก โคมไฟที่บ้านจะเปลี่ยนทุก 3 เดือน คือถ้าไม่มีโคมไฟรู้สึกว่าบรรยากาศมันจะแห้ง โคมไฟมันทำให้อารมณ์ของบ้านเปลี่ยนได้ตลอดเวลา มันเป็น Gimmick หรือเป็น Mysterious Secret เล็กๆ ในบ้าน เราเปลี่ยนแค่โคมไฟตั้งโต๊ะกับโคมไฟตั้งพื้น...แค่ 2 ตัวนี้ บรรยากาศก็ห้องก็เปลี่ยนเลย  
 
  • เวลาจะเลือกซื้อโคมไฟ ต้องเลือก Key Piece ก่อน เริ่มจาก “โคมไฟแขวน” จะเป็นอะไร จากนั้นวาง “โคมไฟตั้งพื้น” ต่อคือดูว่าแบบไหนมันจะเข้ากัน จากนั้นไปเลือก “โคมไฟตั้งโต๊ะ” นี่คือ 3 จุด ที่ผมคำนึงถึงเสมอ  ผมว่า “โคมไฟ” ไม่ใช่แค่เรื่องของการประดับประดา แต่เป็นเรื่องของฟังก์ชั่นใช้งานด้วย
 
  • ผมให้ความสำคัญกับเรื่อง “ความสะอาด” เพราะบ้านคือ Living Space ถ้าบ้านมีกลิ่นไม่ดี เราควรต้องรีบจัดการ  เพราะเราอยู่กับมันทุกวัน สำหรับคนที่อยู่คอนโด การไหลเวียนของลมอาจน้อยกว่า ถ้าคุณมีแอร์หรือเครื่องฟอกอากาศ ก็ควรดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น ต้องล้างแอร์ทุก 6 เดือน หรือต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศบ่อยๆ รวมทั้งผ้าปูที่นอนและพรมก็ควรทำความสะอาดบ่อยๆ เช่นกัน ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจำเป็นเลย เพราะผมเจอเพื่อนหลายคนเป็นภูมิแพ้โดยไม่รู้ตัวผมบอกเขาว่า ให้กลับไปเช็คก่อนเลยว่า บ้านสะอาดหรือเปล่า?
 
  • การมิกซ์แอนด์แมตช์ มี 2 ลักษณะ คือ Harmony กับ Contrast ถ้าอยากได้แบบ Harmony ก็ต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักก่อน แล้วค่อยแตกเรื่องสีกับผิวสัมผัสออกไป เช่น โซฟาหนัง ต่อไปก็เลือกโคมไฟที่อาจจะมีวัสดุหนังหุ้ม (คือให้สัมผัสมันลิงค์กันนิดนึง) แล้วกระจายสีอื่น เช่น สีของหนังคือน้ำตาลส้ม เราก็อาจจะมิกซ์เข้าไปด้วยสีเบจ แล้วเพิ่มองค์ประกอบของไม้ เพื่อเกลี่ยสีกันไป ส่วนวอลเปเปอร์ก็อาจเป็นคู่สีกัน เช่น สีเทาหรือสีที่สว่างเพื่อให้มันดูกลมกลืนกัน  แต่ถ้าชอบแบบ Contrast อาจเลือกเฟอร์นิเจอร์สีแรงไปเลย แล้วตัดคู่สีกัน เช่น เฟอร์นิเจอร์สีน้ำเงิน แล้วตัดด้วยสีอื่นอย่างเหลืองมะนาวหรือสีส้ม ก็จะกลายเป็นคู่สีที่ทำให้ห้องดูมีความสนุกและมีชีวิตชีวา

Favorite items

Favorite Corners in SB Design Square

ผมเคยซื้อเตียงตัวนี้ให้ลูกค้า เพราะดีไซน์เตียงนี้มันดูมีความแข็งแรง ดูมีความเป็นผู้ชาย  สีและรูปทรงของเตียง มันเหมาะกับผู้ชายที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง  รวมถึงวอลเปเปอร์ของห้องนี้ มันทำให้ห้องมี Signature Wall ช่วยให้บริเวณหัวเตียงดูเด่นขึ้น ทำให้ห้องมันมีชีวิตขึ้น

ชอบมุมนี้ เพราะผมคิดว่าดีไซน์ของตัวชั้นโลหะสีทองข้างหลัง มันมีความ Contrast กับความนุ่มของโซฟา มันชวนให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น  จากที่มันจะดูแบนๆ หรือกลมกลืนเกินไป และอีกอย่างนึง คือ ชอบรูปภาพด้วย มันค่อนข้างที่จะกล้า Bold ดี...กล้าที่จะเอาภาพแบบนั้นมาใส่ ทำให้ภาพรวมดูมีมิติ

ต้องการความช่วยเหลือทักแชตเลย

Live Chat With SB Design Squarex