5 เหตุผลที่ควรเปลี่ยนหมอน

5 เหตุผลที่ควรเปลี่ยนหมอนหนุน

หมอนใบหนึ่งควรใช้นานแค่ไหน แล้วเมื่อไหร่ควรเปลี่ยน เนื่องจากหมอนหนุนจะเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกต่างๆ รวมถึงเส้นใยภายในหมอนก็จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ยิ่งเราใช้หมอนนานแค่ไหน ก็ยิ่งมีไรฝุ่นสะสมเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น หมอน จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการนอน เช่นกัน หมอนที่ดีต้องมีความนุ่มที่พอดี ไม่แข็ง หรือนุ่มจนเกินไป สามารถรองรับสรีระคอกับศีรษะของเราได้ แต่รู้หรือไม่ หมอนที่ใช้นานเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ หากรู้สึกว่ามีอาการดังต่อไปนี้ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าหมอนของคุณมันหมดสภาพและได้เวลาเปลี่ยนแล้ว 

1. เป็นสิวหรือผดเริ่มขึ้น

หมอนหนุนที่ใช้อยู่เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและ ไรฝุ่น เเบคทีเรีย ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวบนใบหน้า ดังนั้นควรหมั่นซักปลอกหมอนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือเปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆ

2. มีอาการหอบหืด หรือ ภูมิแพ้

เนื่องจากหมอนมีการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกซึ่งถูกสะสมไว้เป็นระยะเวลานาน จึงส่งผลให้เกิดอาการหอบหือ หรือภูมิแพ้ ทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก มีอาการไอ จาม ได้  อาจจะแก้ด้วยการหาปลอกหมอนกันไรฝุ่นมาใช้ หรือเลือกใช้หมอนที่ป้องกันไวรัส เเบคทีเรีย ซึ่งตอนนี้มีให้เลือกซื้อค่อนข้างเยอะกับนวัตกรรมป้องกันแบคทีเรียหรือไวรัส

3. หมอนหนุนเก่า วัสดุภายในหมดสภาพ

เมื่อเราใช้หมอนไปนานๆ สภาพหมอนก็จะเก่าเหลือง หรือวัสดุภายในฟีบลีบ เปลี่ยนรูปไป ไม่เด้งคืนสภาพเดิม ถ้าเราสังเกตุแล้วว่าหมอนเสื่อมคุณภาพ วัสดุเริ่มหมดอายุการใช้งาน ไม่ควรเก็บไว้ใช้ต่อ ควรเปลี่ยนใบใหม่ได้แล้ว หรือไม่ควรรอให้หมอนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือขึ้นรา แล้วค่อยซื้อใหม่เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ

4. นอนแล้วหลับไม่สบาย หลับไม่สนิท

หมอนหนุนวัตถุประสงค์ในการนอนเพื่อให้หลับสนิท นอนสบาย การเลือกหมอนให้เหมาะกับท่านอนจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากใครชอบนอนหงาย ก็ควรเลือกซื้อหมอนที่มีความนิ่มสูงปานกลาง นอนแล้วศีรษะไม่เงยไปด้านหลัง หรือด้านหน้ามากเกินไป และหากใครที่ชอบนอนคว่ำควรเลือกความเฟิร์ม (Firmness) ของหมอนในระดับ Soft ซึ่งเป็นระดับที่มีความสูงของหมอนน้อยที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกช่วงต้นคออยู่ในลักษณะที่ผิดองศา แต่หากชอบนอนตะแคงควรใช้หมอนที่มีความสูงที่เหมาะสม เนื่องจากไหล่จะสัมผัสกับฟูกก่อน การใช้หมอนทั่วไป (โดยเฉพาะหมอนในระดับ Soft) จะทำให้ศีรษะดิ่งลงและส่งผลต่อกระดูกต้นคอเช่นกัน ดังนั้นควรเลือกซื้อหมอนตามหลักสรีรศาสตร์ที่มีลักษณะคล้ายคลื่นที่ออกแบบมาให้เติมเต็มพื้นที่ว่าช่วงศีรษะและต้นคอ ทำให้ศีรษะไม่ดิ่งลงขณะนอน และทำให้กระดูกสันหลังกับกระดูกต้นคออยู่ในระนาบเดียวกันอีกด้วย เพียงเท่านี้หากเราทราบว่าเราชอบนอนท่าไหน ก็เลือกซื้อหมอนให้ถูกสรีระการนอนก็จะทำให้เรานอนหลับสบายขึ้น

5. อายุการใช้งานเกิน 2 ปี

หมอนก็มีวันหมดอายุได้ ทางผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำไว้ว่า หมอนควรเปลี่ยน 2 ปี ต่อครั้ง หรือบางคนก็ว่า 1 ปี ต่อครั้ง  แต่เมื่อใดที่นอนแล้วรู้สึกไม่สบายตัว หมุนไปหมุนมาไม่เข้าที่สักที แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้ว  ไม่ควรรอจนหมอนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือขึ้นราแล้วค่อยเปลี่ยน เพราะอาจจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพตามมาภายหลัง 

เพราะการนอนเป็นสิ่งสำคัญ...

"การเลือกหมอนที่ดีมีคุณภาพเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การนอนหลับของคุณมีความสุขมากขึ้น"

ควรเปลี่ยนหมอนใบใหม่ทุกๆ 1-2 ปี เพื่อป้องกันไรฝุ่น เชื้อโรคสะสมต่างๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับศีรษะและคอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพียงแค่เราใส่ใจ หมั่นเช็คอุปกรณ์เกี่ยวกับการนอน และการเปลี่ยนหมอนก็ไม่ควรละเลยเช่นกัน เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อสุขภาพเราโดยตรง  หันมาเช็คหมอนหนุนที่บ้านกันดูนะคะ  ว่าถึงเวลาเปลี่ยนหมอนใหม่แล้วหรือ ยัง

Trick การดูแลรักษาหมอนหนุน และปลอกหมอน

- หมอนและหมอนข้าง
ควรนำไปตากแดดอย่างน้อย 5 ชั่วโมง เพื่อกำจัดตัวไรฝุ่นทุกๆ 1 สัปดาห์
และทำการซักทุกๆ 1 - 2 เดือน

- ปลอกหมอน
ควรทำความสะอาดทุกๆ 1 สัปดาห์ หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรให้เกิน 3 สัปดาห์
เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องไรฝุ่น
 

SHOP BY STYLE