7 ITEM ควรมีในห้องนอน

29 พฤศจิกายน 2023 443 view(s)

7 ITEM ควรมีไว้ในห้องนอน

เติมเต็มการนอนพักผ่อนให้สบาย ... ยิ่งขึ้น ของที่ควรมีไว้ในห้องนอนมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยยย

ITEM ที่ 1 : ที่นอน

พระเอกของห้องนอน "ที่นอน" เป็นไอเทมที่มีความสำคัญในการนอนที่สุด การนอนหลับนั้นจะมีความสบายเมื่อมีที่นอนรองรับแผ่นหลัง และสรีระของร่างกายดังนั้นการเลือกที่นอน จึงเป็นสิ่งสำคัญ มีหลายปัญจัยมากเช่น

1. ขนาดของที่นอน ปัจจัยเกี่ยวกับขนาดพื้นที่ ควรเลือกให้เหมาะสมกับห้องนอน ซึ่งมี ทั้ง 6 ฟุต , 5 ฟุต , 3.5 ฟุต และขนาดพิเศษ

2. เลือกที่นอนให้เหมาะกับวัย เพราะคนเรามีสรีระ และพฤติกรรมการนอนที่ต่างกัน

เด็ก มักจะชอบที่นอนนุ่มๆ แต่ก็ไม่ควรให้นุ่มเกินไป เพราะอาจทำให้การจัดระเบียบร่างกายไม่ดีนัก ส่งผลต่อกระดูกสันหลังในระยะยาว
ผู้ใหญ่ นอนคนเดียวก็สามารถเลือกที่นอนได้ตามใจชอบ สำคัญที่ต้องสามารถรองรับสรีระได้ดี ไม่ทำให้เกิดการปวดหลังหรือไม่สบายตัวตามมา
คู่แต่งงาน แบบนอนคู่ ถ้าคุณไม่ได้นอนคนเดียว ที่นอนสำหรับสองคนควรเป็นที่นอนแบบพ็อคเก็ตสปริง ที่ไม่มีแรงสั่นสะเทือนรบกวนคนข้างๆ เวลาพลิ
ตัว อย่าลืมแบ่งปันความชอบเรื่องระดับความนุ่ม ความแน่น ให้พอใจกันทั้งคู่ด้วย จะได้หลับสบายกันทั้งคู่
ผู้สูงวัย ควรเลือกที่นอนที่ค่อนข้างแข็ง และหนา โดยความสูงของที่นอนไม่ควรสูงเกินไป และควรเลือกที่นอนที่มีความกว้างมากพอให้พลิกตัวได้

3. ประเภทของที่นอน

ที่นอนสปริง ที่นอนยอดยอดนิยมลำดับต้นๆ เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงมาก โรงแรมและห้องพัก เลือกใช้เป็นจำนวนมาก มีคุณสมบัติ ยืดหยุ่นพร้อมทั้งคืนตัวได้ดี ออกแบบมาให้รองรับสรีระได้มากกว่า ไม่มีการกดทับ
ที่นอนพ็อคเก็ตสปริง มีความแตกต่างจากที่นอนสปริงทั่วไป คือ การเพิ่มถุงผ้าภายในที่นอน เพื่อช่วยให้สปริงทำงานได้ดีขึ้น ไม่สะเทือนรบกวนคนข้างๆ เมื่อขยับตัว เพิ่มความยืดหยุ่นและรองรับสรีระของผู้นอนได้ดีขึ้น
ที่นอนโฟม หรือฟองน้ำ มีลักษณะที่โดดเด่นเรื่องความนุ่ม และนิ่ม โดยจะต่างจากที่นอนยางพาราและสปริงในเรื่องการยืดหยุ่นและการคืนตัว ที่นอนประเภทนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการปวดหลัง เนื่องจากที่นอนจะมีความอ่อนยวบมากกว่า ที่นอนแบบอื่น
ที่นอนเมมโมรี่โฟม คุณสมบัติของเมมโมรี่โฟมประกอบด้วยเซลล์ขนาดเล็กที่มีความหนาแน่นสูง มีโครงสร้างที่ช่วยปรับตัวให้เข้ากับแรงกดทับได้สูง ซึ่งช่วยโอบรับสรีระและน้ำหนักของร่างกายในแต่ละส่วนของเราให้รู้สึกสบายตัว ผ่อนคลายและช่วยลดแรงกดทับที่เป็นหนึ่งในปัจจัยในการเกิดอาการปวดหลัง ปวดเอว หรืออวัยวะส่วนอื่น ๆ ตามร่างกาย
ที่นอนยางพารา เป็นที่นอน ที่มีความคงทน และอายุการใช้งานได้ยาวนาน 10-20 ปี โดยคุณสมบัติของที่นอนยางพารา คือ ไม่เก็บความชื้นและฝุ่นละออง มีความยืดหยุ่นและความหนาแน่นสูง สามารถปรับตามสรีระได้เป็นอย่างดี จึงทำให้หลับสบาย ไม่ทำลายการนอน แต่มีราคาที่สูง น้ำหนักมาก

ITEM ที่ 2 : หมอนหนุน

ทำหน้าที่รองรับต้นคอ และศีรษะ เวลานอน

หมอนหนุน ที่ดี คือหมอนหนุน ที่รองรับสรีระต้นคอ และทำให้การนอนหลับสบาย โดยไม่ปวดต้นคอ ควรเลือกหมอนหนุนให้เหมาะกับท่านอน

นอนตะแคง : ควรเลือกหมอนที่มีความหนาและแน่น โดยทั่วไปมักจะเลือกหมอนโฟม หมอนหนุนใยสังเคราะห์ หรือ หมอนยางพารารูปทรงคลื่นที่ออกแบบมาจากลักษณะของกระดูกสันหลังที่โค้งงอเป็นรูปตัว S จะช่วงรองรับต้นคอได้เป็นอย่างดี
นอนคว่ำ : สำหรับคนชอบนอนคว่ำควรเลือกมหอนหนุนที่นุ่มและบางลง เพื่อให้คออยู่ในตำแหน่งกลาง และสามารถวางหมอนไว้บริเวณใต้ไหล่ทั้งสองข้างได้ ควรเลือกใช้หมอนใยสังเคราะห์ หมอนขนสัตว์ หรือหมอนขนเป็ด เป็นต้น
นอนหงาย : ควรใช้หมอนที่มีความหนาปานกลางถึงแข็ง เพื่อให้คออยู่แนวเดียวกับระดับศีรษะและคอไม่ก้มไปด้านหน้า และควรเลือกความสูงของหมอนต่ำกว่าการนอนตะแคง หมอนที่แนะนำ ได้แก่หมอนเมมโมรี่โฟม หรือ หมอนยางพารา

ITEM ที่ 3 : หมอนข้าง

ตัวช่วยจัดระเบียบหลังของเราให้ดีขึ้น เพียงนอนกอดหมอนข้างก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น การยกบางส่วนของร่างกายเรา แขน ขา เข่า หรือ เท้า จะช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ราบรื่นไปถึงหัวใจ หัวใจจึงทำงานไม่หนัก ประโยชน์ของหมอนข้างมีดังนี้

สามารถปรับเปลี่ยนการจัดเรียงกระดูกสันหลัง
ลดอาการปวดหลังส่วนล่างได้
ช่วยจัดท่านอนให้ถูกสรีระของการนอน
ลดการเป็นตะคิว
ช่วยรองรับสรีระของหญิงมีครรภ์
สามารถลดแรงกดทับที่สะโพกได้
ป้องกันการนอนกลิ้งไปมาไม่ให้ตกเตียงได้

ITEM ที่ 4 : ผ้าปูที่นอน

เป็นไอเทมที่สัมผัสกับผิวกาย ช่วยให้การนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน จึงจำเป็นต้องเลือกผ้าปูที่นอนที่ได้คุณภาพโดยเฉพาะเรื่องจำนวนเส้นด้ายที่ยิ่งมากก็ยิ่งทำให้ผ้าปูที่นอนนุ่มน่านอน ควรเลือกใช้สีที่สบายตา เหมาะแก่การพักผ่อนที่สุด การเลือกผ้าปูดูจากอะไรบ้าง

ขนาดของที่นอน : ก่อนซื้อผ้าปู ก็ควรดูขนาดของที่นอนด้วยเพื่อให้สามารถใส่กับที่นอนและสวยงาม
เนื้อผ้า : เนื้อสัมผัสของผ้าปูเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการนอน มีแบบไหนบ้าง- ผ้าปูจากเส้นใยธรรมชาติ 100% มีทั้งเส้นใยจากฝ้าย ,ใยไหม และเส้นใยจากต้นไผ่ แต่ที่นิยมนำมาทอส่วนใหญ่เป็นเส้นใยธรรมชาติที่ได้จากฝ้าย หรือเรียกกันว่าผ้าคอตตอล Cootton มีคุณสมบัติเด่น คือความนุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี และทนทาน ให้ความรู้สึกเย็น และยังถ่ายเทอากาศ ระยายความร้อนได้ดี เหมาะกับการใช้งานในหน้าร้อน ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น - ผ้าจากซาติน เนื้อผ้าจะเป็นมันวาว ดูหรูหรา ตัวผ้ามีน้ำหนักค่อนข้างทิ้งตัว ข้อดีคือ ผิวสัมผัสนุ่มลื่น เย็นสบาย เหมาะกับการใช้เป็นผ้าคลุมเตียงหรือผ้าหุ่มมากกว่า
สีของผ้าปู : เลือกสีให้เข้ากับโทนห้อง เพื่อให้บรรยากาศดูน่าพักผ่อน สวยงาม หรือบางคนสายมู อาจจะเลือกตามราศี หรือวันเกิด เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต
คุณสมบัติของผ้าปู : เลือกผ้าปูที่มีคุณสมบัติ กันไรฝุ่น เพราะในห้องนอน ตัวไรฝุ่น มีค่อนข้างเยอะ การที่เราใช้สินค้าที่กันไรฝุ่นได้ จะทำให้เราไม่เป็นภูมิแพ้ และให้นอนหลับสบายตลอดคืน

ITEM ที่ 5 : ท็อปเปอร์

ช่วยแก้ปัญหา เมื่อที่นอนมีสัมผัสที่นุ่มหรือแน่นเกินไป สามารถใช้เสริมบนที่นอนเพื่อเสริมให้ที่นอนมีความหนามากขึ้น และยังสามารถวางนอนกับพื้น หรือโยกย้ายได้ตามต้องการ

ITEM ที่ 6 : น้ำหอม Aroma

ช่วยทำให้ห้องนอนมีกลิ่นหอมเพิ่มบรรยากาศของการพักผ่อน ยิ่งเป็นกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหย กลิ่นอโรมาเธอราพีอาจจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมให้การนอนหลับได้ดีขึ้นอีกด้วย "กลิ่นอโรม่า" ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด และความเหนื่อยล้าได้ ยิ่งในชีวิตปัจจุบันการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ จนละเลยการดูแลตัวเอง หรือแม้แต่เวลาพักผ่อนก็แทบจะไม่มี กลิ่นหอมจาก อโรม่า จากธรรมาชาติจะคลายความเหนื่อยล้า และบรรเทาลงได้ และเป็นการสร้างบรรยากาศในการนอน ให้หลับสบาย มาดูประโยชน์ของ Aroma มีอะไรบ้าง

ผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครียดของทั้งร่างกายและจิตใจ
บำรุงผิวหนังและช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ลบเลือนริ้วรอย
ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่นอนหลับยาก
ฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ผ่านเครื่องพ่นควันหรือการอบห้อง
สร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายแข็งแรง และฟื้นฟูสุขภาพ

ITEM ที่ 7 : ต้นไม้

การนำต้นไม้มาไว้ในห้องนอน นอกจากจะช่วยในการตกแต่งให้นอนแล้วยังช่วยในเรื่องระบบการหายใจ เพราะต้นไม้สามารถฟอกอากาศได้ เช่น ต้นยางอินเดีย และลิ้นมังกร ยอดฮิต เพราะช่วยทำให้ออกซิเจนในห้องนอนสูงขึ้นและดูดซับสารพิษและมีประโยชน์หลายอย่าง